กรมควบคุมมลพิษพบว่าอำเภอเมืองจังหวัดเชียงรายมีระดับ PM2.5 สูงสุดที่ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (/g / m³) ตามด้วย 90 µg / m³ในพะเยา 86 µg / m³ในลำปางและ 73 µg / m³ใน จังหวัดเชียงใหม่
จำนวนที่เพิ่มขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมาเนื่องจากการเกิดไฟป่าจำนวนมาก ตัวเลขแสดงให้เห็นว่ามีฮอตสปอต 132 แห่งในภาคเหนือมากกว่าครึ่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย
จังหวัดในภาคเหนือตอนนี้ต้องเผชิญกับวิกฤติมลพิษจากหมอกควันซึ่งครอบงำจังหวัดเป็นเวลาเกือบสองเดือนเนื่องจากชาวนาจุดไฟเพื่อล้างพื้นที่ป่าเพื่อการเพาะปลูกก่อนฤดูฝนที่จะมาถึง
แม้จะมีคำเตือนเรื่องการจับกุม แต่สถานการณ์ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับการปรับปรุง จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภาคเหนือ ระดับสูงสุดของ PM2.5 นับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมวัดที่ 305 µg. / m³ ณ สิ้นเดือนที่แล้ว
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะประชุมในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกำลังเตรียมฝนประดิษฐ์ในภาคเหนือเพื่อบรรเทามลภาวะทางอากาศหลังจากพิจารณาสถานการณ์ที่รุนแรงพอที่จะใช้เทคโนโลยีราคาแพงโดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.bangkokpost.com/news/environment/1664860/pm2-5-levels-surge-in-chiang-rai ด้วยค่ะ