การประเมินผลกระทบทางเสียงด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับและใช้อย่างแพร่หลายโดยนักวิชาการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก หนึ่งในเครื่องมือที่มีความน่าเชื่อถือและใช้กันอย่างกว้างขวางคือ ซอฟต์แวร์ SoundPLAN ซึ่งพัฒนาโมดูล SoundPLAN Essential สำหรับการประเมินโครงการขนาดเล็กถึงกลาง

SoundPLAN Essential สำหรับโครงการขนาดเล็กถึงกลาง
คุณสมบัติเด่นของ SoundPLAN Essential
- ใช้งานง่าย: เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการความซับซ้อน แต่ผลลัพธ์แม่นยำ
- รองรับโครงการไม่จำกัด: จำนวนแหล่งกำเนิดเสียง (sources), จุดรับเสียง (receivers), และสิ่งกีดขวาง (obstacles) ไม่จำกัด
- จำลองเสียงจากหลากหลายแหล่ง: ถนน, รางรถไฟ, อุตสาหกรรม, งานก่อสร้าง, งาน Event การแสดงดนตรี
- เครื่องมือสร้าง Noise Map: แผนที่เสียง, ตารางผลกระทบ, และวัตถุช่วยในแผนที่ เช่น กำแพงกันเสียง, พื้นที่ดูดซับเสียง, อาคาร, ความแตกต่างระดับพื้นดิน (DGM)
มาตรฐาน ISO 9613-2:2024
เป็นมาตรฐานทางวิศวกรรมสำหรับคำนวณการหักเหของเสียงขณะเคลื่อนที่ในพื้นที่ภายนอก (outdoor propagation) เพื่อทำนายระดับความดังเสียง (A-weighted sound pressure levels)
5 ปัจจัยหลักในการหักเหเสียง
- การกระจายของเสียง (geometrical divergence)
- การดูดกลืนของบรรยากาศ (atmospheric absorption)
- ผลของพื้นดิน (ground effect)
- การสะท้อนจากพื้นผิว (reflection)
- การกีดขวางของวัตถุ (screening by obstacles)
เวอร์ชันใหม่ 2024 ได้ปรับปรุง directivity, ground factor, barrier attenuation ให้แม่นยำขึ้น
การใช้งานร่วมกัน: SoundPLAN Essential + ISO 9613-2:2024
ผู้ใช้สามารถเปิดใช้โหมดคำนวณตามมาตรฐานสากลได้ง่าย โดยไม่ต้องตั้งค่าเองเป็นขั้นตอนยิบย่อย
แนวทางใช้งานเชิงปฏิบัติ และมาตรการลดเสียงรบกวน
1. เตรียมข้อมูลเบื้องต้น
- รวบรวมข้อมูลแหล่งกำเนิดเสียง เช่น ค่า sound power spectrum, ตำแหน่งและรูปแบบ (point, line, area source)
- สร้างแบบจำลองพื้นที่ (DGM) ด้วย elevation lines จาก Google Earth หรือ Open Street Map
- กำหนดคุณสมบัติพื้นดิน, อาคาร, คันดิน, กำแพง ในโมเดล
2. เปิดใช้งานการคำนวณตาม ISO 9613-2:2024
- เลือกมาตรฐาน ISO 9613-2 ใน SoundPLAN Essential
- คำนวณ attenuation ใน octave bands ครอบคลุมทุกปัจจัยตามมาตรฐาน
- สร้างแผนที่ระดับเสียง (Noise Map), ตารางผลลัพธ์ และ contour lines สำหรับรายงาน EIA หรือการวางแผนมาตรการ
3. วิเคราะห์ผลลัพธ์ และวางมาตรการลดเสียงรบกวน
- ตรวจสอบ Noise Map & Contour Lines เพื่อตรวจหาจุดเสียงสูง (hotspots)
- ใช้วัตถุ mitigation เช่น กำแพงกันเสียง, พื้นที่พืชคลุม, อาคาร เพื่อจำลองการลดเสียง
- เปรียบเทียบก่อน–หลังติดตั้งกำแพงกันเสียง เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและคุ้มค่า
- จัดทำรายงานด้วยกราฟ ตาราง และ Noise Map พร้อมคำแนะนำ เช่น ความสูงและตำแหน่งของกำแพง, วัสดุ และค่าระดับเสียงที่ลดลง