กังหันลมที่เป็นแหล่งพลังงานสะอาดทดแทนซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศหรือส่งผลต่อภาวะโลกร้อน และกลายเป็นสิ่งปกติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ถึงจะมีประโยชน์แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อผู้คน เพราะเมื่อเร็วๆนี้มีรายงานลงในวารสารสังคมวิทยาศาสตร์นานาชาติเพื่อเผยแพร่และส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับเสียงในอเมริกา (Acoustical Society of America) อ้างว่าเสียงดังจากกังหันลมกำลังส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนชาวนาบางแห่งที่อาศัยอยู่ใกล้กังหันลม
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมโดยรัฐบาลแคนาดาในปี พ.ศ.2555-2556 ซึ่งในช่วงนั้นรัฐบาลได้ส่งแบบสำรวจไปยังบ้านเรือนทั้งหมดที่อยู่ภายใน 600 เมตรของกังหันลมในเมืองออนทาริโอ หรือเกาะพรินซ์ เอ็ดเวิร์ด และสุ่มสำรวจบ้านที่ห่างจากกังหันลมประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งการวิจัยก่อนหน้าไม่พบความเชื่อมโยงโดยตรงของความใกล้ชิดระหว่างผู้อยู่อาศัยกับกังหันลม รวมถึงปัญหาการนอนหลับ ความดันโลหิตสูง หรือความเครียด ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโต ในแคนาดาและบริษัทด้านวิศวกรรมที่ช่วยวางแผนและสร้างฟาร์ม กังหันลมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา จึงตั้งข้อสังเกต ว่าระยะห่างที่อยู่อาศัยจากกังหันลมมีผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างไร
ผลวิจัยล่าสุดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้คนซึ่งมองเห็นกังหันลมจากบ้านของตนเองจะเกิดความรำคาญเพิ่มขึ้น เพราะกังหันลมอาจติดตั้งในที่ที่ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของพวกเขา อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ไม่ใช่การทดลองแบบควบคุมเพื่อพิสูจน์ว่า การอยู่ใกล้กับกังหันลมมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างไร ที่สำคัญคือนักวิจัยยังขาดข้อมูลเสียงจริง รวมทั้งยังใช้แบบจำลองของกังหันลมในการวิจัย.
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.thairath.co.th/content/1336066 ด้วยค่ะ